วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิธีดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม

*** ทุกโปรแกรมสามารถใช้ดูเป็นแนวทางได้ ***

1. คลิกปุ่ม Download ของโปรแกรมที่ต้องการ เช่น Download ACC-GL

2. คลิกปุ่ม เริ่ม Download
3. คลิกปุ่ม Save *ถ้าหน้าจอ ไม่เป็นดังภาพ - ให้หาดูว่ามีคำว่า Save to หรือ มีระบุเกี่ยวกับ ไดร์ฟ หรือ โฟล์เดอร์ หรือเปล่า ? โปรดจดไว้ก่อน (เพื่อจะได้ทราบว่าโปรแกรมที่ดาวน์โหลดลงมา จัดเก็บไว้ที่ไหน)

4. คลิกเลือก แหล่ง (ที่ต้องการจะ Save) เช่น ไดร์ฟ C
4.1 แสดงแหล่งที่เลือก
4.2 คลิกปุ่ม Save
5. โปรดรอ.....จนกระทั่ง ดาวน์โหลดเสร็จ
(สำหรับ Hi Speed Internet จะใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที)
6. เสร็จแล้ว จะมีข้อความ Download Complete แสดงขึ้นมา
- ให้คลิกปุ่ม Close
7. ตรวจสอบไฟล์ Setup ที่ดาวน์โหลดลงมา
(โดยเข้าไปตามแหล่งที่เลือก Save หรือ จดไว้ตามข้อ 3)
- ดับเบิ้ลคลิก ที่ My Computer
7.1 ดับเบิ้ลคลิก เข้าไปที่แหล่งที่เลือก Save ไว้
(ตามที่ได้เลือก Save ไว้ หรือ จดไว้ตามข้อ 3)
7.2 จะได้ ไฟล์ SETUP - จากนั้น ให้ตรวจสอบขนาดของไฟล์ โดยชี้เมาส์ไปที่ ไฟล์ SETUP
7.3 คลิก ปุ่มขวาของเมาส์ แล้วคลิก Propeties
7.4 ให้ดูที่ Size on Disk ว่ามีขนาดเท่ากับที่หน้าเว็บไซด์ระบุไว้ หรือไม่ - ถ้าน้อยกว่าแสดงว่า ไฟล์ SETUP ที่ดาวน์โหลดได้--ไม่สมบูรณ์ ควรดาวน์โหลดใหม่ โดยลบ ไฟล์ SETUP ที่ไม่สมบูรณ์นี้ ทิ้งไปก่อน เพื่อจะได้ไม่มี ไฟล์ SETUP ตัวเดิมค้างอยู่
7.5เสร็จแล้ว คลิกปุ่ม Cancel ออกมา

วิธีดาวน์โหลด(download)ไฟล์จากเว็บ UP2U.in.th

วิธีดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บ UP2U.in.th

1 เมื่อกดดาวน์โหลดจากลิงค์ในเว็บบอร์ดแล้วจะปรากฏหน้าเว็บขึ้นมาตามรูป
รอจนนับถอยหลังจนครบ


2 จะมีคำว่า Download ขึ้นมา ให้กดตรง คำว่า Download

3 จะมีหน้าต่างข้อความขึ้นมา ให้กดตรง Save

4 เลือกไดรว์และโฟล์เดอร์ปลายทางที่จะเก็บไฟล์ แล้วกด Save จากนั้นรอจนดาวน์โหลดครบ 100%

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิธีใช้งานโปรแกรมช่วยดาวน์โหลด Internet Download Manager (IDM)

วิธีใช้งานโปรแกรมช่วยดาวน์โหลด Internet Download Manager (IDM)
หลังจากที่คุณติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเรียกเข้าโปรแกรมได้จากไอคอนของโปรแกรม ที่จะปรากฏอยู่ที่มุมขวามือด้านล่างของหน้าจอ Desktop (System Tray) หรือเรียกเข้าโปรแกรมจากทางเมนู Start / Programs / Internet Download Manager

ซึ่งคุณจะพบกับหน้าจอหลักของโปรแกรม ดังรูป

1. Add URL -- เป็นปุ่มที่ใช้ป้อนตำแหน่งของไฟล์ที่คุณต้องการจะดาวน์โหลด หรือก็คือ URL ของโปรแกรมนั้นๆ เช่น http://www.carabao.net/webboard/tsunami.mp3 หรือ http://www.registryfix.com/registryfix.exe

2. Resume -- เป็น ปุ่มที่ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ที่ยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ ซึ่งอาจจะเกิดจากเน็ทหลุด หรือไฟดับ ทำให้การดาวน์โหลดขาดช่วง คุณก็สามารถใช้ปุ่มนี้ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ต่อเนื่องจากจุดที่ขาดช่วงได้ เมื่อคุณต่อเข้ามาในเน็ทอีกครั้งหนึ่ง
* ความสามารถในการดาวน์โหลดต่อเนื่องหรือ Resume นั้น ขึ้นอยู่กับ Server ที่คุณดาวน์โหลดไฟล์ด้วยว่ายินยอมหรือรองรับการดาวน์โหลดแบบต่อเนื่องหรือ ไม่ หากไม่รองรับ คุณจำเป็นต้องเริ่มดาวน์โหลดใหม่ทั้งหมด

3. Stop -- เป็น ปุ่มที่ใช้หยุดการดาวน์โหลดไฟล์ ซึ่งหาก Server ที่คุณดาวน์โหลดไฟล์ รองรับการดาวน์โหลดไฟล์แบบต่อเนื่อง (Resume) คุณก็สามารถหยุดการดาวน์โหลดเพื่อไปทำธุระ และกลับมาดาวน์โหลดต่อเมื่อมีเวลา

4. Stop All -- ทำงานเหมือนกับปุ่ม Stop แต่ใช้ในกรณีที่ต้องการหยุดการดาวน์โหลดไฟล์ ที่กำลังดาวน์โหลยู่ ณ ขณะนั้นทั้งหมด

5. Delete -- เป็น ปุ่มที่ใช้ลบรายการจากในลิสต์ดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM (จะได้กล่าวถึงในข้อ 13.) การลบไฟล์ดังกล่าวนี้ เป็นเพียงการลบรายการจากในลิสต์รายการดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM เท่านั้น ไม่มีผลกระทบหรือไม่ได้ลบไฟล์ที่เราได้ดาวน์โหลดมาแล้ว

6. Delete Completed Files -- ทำ งานเหมือนกับปุ่ม Delete แต่เป็นการลบรายการจากในลิสต์ดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM ซึ่งดาวน์โหลดโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว (ที่มีสถานะเป็น Complete ซึ่งจะแสดงอยู่ในลิสต์รายการดาวน์โหลด ที่จะได้กล่าวถึงในข้อ 13.) ออกไปในคราวเดียวกัน

7. Options -- ปุ่มที่ใช้ปรับแต่งการทำงานของโปรแกรม IDM (จะได้กล่าวถึงโดยละเอียดต่อไป)

8. Scheduler -- ปุ่ม กำหนดตารางเวลาที่จะใช้ดาวน์โหลดไฟล์ที่ยังอยู่ในคิว (Queue) ที่แสดงในหน้าต่างลิสต์รายการดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM เช่น เมื่อคุณพบไฟล์ที่ต้องการจะดาวน์โหลด คุณอาจจะไม่ได้ทำการดาวน์โหลดในทันที (ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม)

9. Start Queue -- ปุ่มที่สั่งให้โปรแกรม IDM ดาวน์โหลดไฟล์ที่อยู่ในคิว (Queue) ซึ่งยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ

10. Stop Queue -- ปุ่มที่สั่งให้โปรแกรม IDM หยุดการดาวน์โหลดไฟล์ที่อยู่ในคิว (Queue)

11. Tell a Friend -- ปุ่มที่ใช้เรียกโปรแกรม E-Mail จากในเครื่องของคุณ เพื่อแนะนำโปรแกรม IDM ให้กับเพื่อนของคุณทราบ

12. Categories -- การ แบ่งประเภทของไฟล์ที่อยู่ในลิสต์รายการดาวน์โหลด เช่น ไฟล์ที่โปรแกรม IDM ทำการดาวน์โหลดทั้งหมด (All Downloads) , รายชื่อไฟล์ที่ยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ (Unfinished) , รายชื่อไฟล์ที่ดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว (Finished) นอกจากนี้ ในส่วนของรายชื่อไฟล์ที่ถูกดาวน์โหลดทั้งหมด ยังได้รับการแยกประเภทเป็นไฟล์ที่ถูกบีบอัด (Compressed) ไฟล์เอกสาร (Documents) ไฟล์เสียง (Music) ไฟล์โปรแกรม (Programs) ไฟล์วีดีโอ (Video) เพื่อให้คุณสะดวกต่อการตัดสินใจดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับไฟล์แต่ละประเภทต่อไป

13. ลิสต์รายการดาวน์โหลด เป็นส่วนที่ใช้แสดงรายการไฟล์ที่ถูกดาวน์โหลดโดยโปรแกรม IDM ทั้งที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว และยังไม่เรียบร้อย รวมทั้งไฟล์อยู่ในคิว
- File Name ชื่อไฟล์ที่ดาวน์โหลด
- Q หากไฟล์อยู่ในคิว (Queue) ที่จะถูกดาวน์โหลด (ไฟล์ที่ยังดาวน์โหลดไม่สมบูรณ์) จะปรากฏเป็นเครื่องหมาย +
- Size ขนาดของไฟล์ที่จะดาวน์โหลด
- Status สถานะของการดาวน์โหลด หากโหลดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะขึ้นเป็นคำว่า Complete แต่หากยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของส่วนที่ดาวน์โหลดมาแล้ว
- Time-left ระยะเวลาที่คาดว่าจะดาวน์โหลดไฟล์เสร็จ (โดยประมาณ)
- Transfer rate อัตราความเร็วในการดาวน์โหลด
- Last Try … หากมีการดาวน์โหลดไฟล์ใดไฟล์หนึ่งมากกว่า 1 ครั้ง ในช่องนี้จะแสดงเป็นวันที่และเวลาในการดาวน์โหลดครั้งล่าสุด
- Description รายละเอียดของไฟล์ที่ดาวน์โหลด เช่น หากเป็นไฟล์ Mp3 ก็จะแสดงอัตราบิทเรท , ความยาวของเพลง


วิธีการดาวน์โหลดไฟล์โดยโปรแกรม IDM

การดาวน์โหลดไฟล์ในโปรแกรม IDM สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น

1. เข้าไปที่หน้าจอหลักของโปรแกรม IDM จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Add URL (ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น) ซึ่งจะปรากฏหน้าจอให้คุณป้อน URL ของไฟล์ที่คุณต้องการจะดาวน์โหลด เช่น http://www.carabao.net/webboard/tsunami.mp3 หรือ http://www.registryfix.com/registryfix.exe


2. เมื่อคุณเจอลิ้งค์ของไฟล์ที่คุณต้องการจะดาวน์โหลด คุณสามารถคลิกขวาที่ลิ้งค์นั้น แล้วเลือก Download with IDM ดังรูป
3. การดาวน์โหลดโดยใช้รถเข็นดาวน์โหลด ของโปรแกรม IDM การดาวน์โหลดด้วยวิธีนี้ ก่อนอื่นคุณต้องเปิดใช้งานระบบรถเข็นดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM ก่อน โดยเข้าไปที่หน้าจอหลักของโปรแกรม IDM คลิกที่เมนู URL จากนั้นทำเครื่องหมายหน้าบรรทัด Show drop target

ซึ่งเมื่อคุณเจอลิ้งค์โปรแกรมที่คุณต้องการดาวน์โหลด ก็เพียงแค่ใช้เมาส์ลากลิ้งค์ดังกล่าว มาไว้ที่รถเข็นดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM (ดังที่แสดงในรูป) ที่จะแสดงอยู่ที่มุมล่างขวามือของหน้าจอ (คุณสามารถลากมันไปไว้ในตำแหน่งที่คุณต้องการได้)
4. การดาวน์โหลดโดยใช้คำสั่งก๊อปปี้ URL ที่เป็นข้อความ (ไม่ใช่ลิ้งค์) ซึ่งวิธีนี้จะมีประโยชน์เวลาที่คุณพบ URL ของไฟล์ที่ต้องการจะดาวน์โหลด เช่น http://www.registryfix.com/registryfix.exe แต่ทางคนที่บอก URL ไว้ไม่ได้ทำเป็นลิ้งค์ให้คุณคลิกเพื่อดาวน์โหลดได้ทันที คุณก็สามารถดาวน์โหลดได้จากโปรแกรม IDM ได้ด้วยวิธีง่ายๆ

แต่ก่อน อื่นคุณต้องเข้าไปกำหนดให้ใช้ความสามารถนี้จากหน้าจอหลักของโปรแกรม IDM (กำหนดเพียงครั้งเดียว) โดยคลิกที่เมนู Downloads เลือก Options
ในแท็บ General ให้คุณทำเครื่องหมายหน้าบรรทัด Automatically start downloading of URLs placed to clipboard
จากนั้นเมื่อคุณเจอลิ้งค์ดาวน์โหลดโปรแกรมที่เป็น URL แต่ทางคนที่บอก URL ไว้ อาจจะไม่ได้ทำลิ้งค์ให้ คุณก็เพียงแค่ลากเมาส์ทำไฮไลท์คลุมข้อความ URL ดังกล่าวไว้ จากนั้นเลือกคำสั่ง Copy ดังรูป
โปรแกรม IDM ก็จะขึ้นหน้าจอให้ยืนยันการดาวน์โหลด ดังรูป
ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือกดาวน์โหลดด้วยวิธีการใดก็ตาม หน้าจอที่แสดงการดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM ก็จะแสดงผลขึ้นมาเหมือนๆ กัน ดังรูป
ในหน้าจอที่ปรากฏขึ้นมานี้ จะแสดง URL ของไฟล์ที่คุณกำลังจะดาวน์โหลด , โฟลเร์ที่จะจัดเก็บไฟล์ที่ดาวน์โหลด (คุณสามารถคลิกปุ่ม Browse เพื่อเลือกโฟลเร์ที่จะจัดเก็บได้)

หากคุณไม่ต้องการดาวน์โหลด ณ ขณะนั้น คุณสามรถคลิกที่ปุ่ม Download Later เพื่อเก็บไฟล์ดังกล่าวเข้าคิว (Queue) ไปทำการดาวน์โหลดเมื่อคุณมีเวลาสะดวก (คุณสามารถตั้งเวลาดาวน์โหลด ในช่วงเวลาที่คุณต้องการได้จากปุ่ม Scheduler ในหน้าจอหลักของโปรแกรม IDM ที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้น)

แต่หากคุณต้องการเริ่มการดาวน์โหลด ทันที ให้คุณคลิกที่ปุ่ม Start Download เพื่อเริ่มการดาวน์โหลดไฟล์ในทันที ซึ่งจะปรากฏหน้าจอแสดงการดาวน์โหลดขึ้นมาดังรูป
ในหน้าจอที่แสดงการดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM นี้ จะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการดาวน์โหลดไฟล์ๆ นั้น เช่น ขนาดของไฟล์ จำนวนข้อมูลที่ดาวน์โหลดได้แล้ว ความเร็วในการดาวน์โหลด เวลาที่คาดว่าจะเสร็จ ซึ่งได้กล่าวถึงไปแล้ว ในข้อ 13. ที่อธิบายความหมายของแต่ละส่วนในหน้าจอหลักของโปรแกรม IDM

มีจุด สังเกตที่ควรจะกล่าวถึงเพิ่มเติมเพียงจุดเดียว คือ ในบรรทัด Resume Capability ซึ่งจะบอกข้อมูลให้คุณทราบว่า คุณสามารถดาวน์โหลดไฟล์ดังกล่าวนี้ต่อเนื่องในภายหลังได้หรือไม่ (Yes/No) หากการดาวน์โหลดเกิดหยุดชะงักด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม

ซึ่งหากลิ้งค์ โปรแกรมที่คุณต้องการจะดาวน์โหลดไฟล์นี้ มีมากกว่า 1 ลิ้งค์ และไฟล์ที่จะดาวน์โหลดมีขนาดใหญ่ คุณอาจจะเลือกลิ้งค์ที่มีความสามารถในการดาวน์โหลดต่อเนื่องในภายหลังได้ เพื่อหากเกิุบัติเหตุที่ทำให้การดาวน์โหลดต้องหยุดชะงักลง คุณจะได้สามารถกลับมาดาวน์โหลดต่อได้ในภายหลัง


ปรับแต่งการทำงานของโปรแกรม IDM ให้ตรงกับความต้องการ

โดยให้คุณเปิดหน้าจอหลักของโปรแกรม IDM ขึ้นมา จากนั้นคลิกไปที่เมนู Downloads >> Options ดังรูป
1. การกำหนดค่าในแท็บ General
ในส่วนที่ 1
- Launch Internet Download Manager on startup -- กำหนดให้เปิดใช้งานโปรแกรม IDM ทุกครั้งที่เริ่มใช้ Windows หรือไม่
- Automatically start downloading of URLs placed to clipboard -- กำหนด ให้เมื่อมีการก๊อปปี้ข้อความใดๆ ที่ตรงกับชนิดของไฟล์ที่จะดาวน์โหลดด้วยโปรแกรม IDM ให้มีหน้าจอขึ้นมาให้ยืนยันการดาวน์โหลด (ดังที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว ในหัวข้อวิธีการดาวน์โหลดไฟล์โดยโปรแกรม IDM
- Use advanced browser integration -- ให้ โปรแกรม IDM ทำงานร่วมกับเว็บบราวเซอร์ตามที่ระบุไว้ในกรอบด้านล่างของบรรทัดนี้ (จะได้กล่าวถึงในส่วนที่ 2) ซึ่งจะอำนวยความสะดวก เมื่อคุณมีการดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บบราวเซอร์ที่ถูกระบุไว้นี้ โปรแกรม IDM จะทำงานแทนระบบดาวน์โหลดของตัวเว็บบราวเซอร์ในทันทีที่มีการดาวน์โหลดเกิด ขึ้น

ในส่วนที่ 2
ชื่อโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ที่จะกำหนดให้ โปรแกรม IDM ทำงานร่วมด้วย ในเบื้องต้นที่กำหนดไว้ คือ IE , Mozilla, Netscape, Opera แต่หากคุณต้องการให้โปรแกรม IDM ทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ (ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะโปรแกรมประเภทบราวเซอร์เท่านั้น) เช่น เมื่อคุณดาวน์โหลดไฟล์ด้วยโปรแกรม WS_FTP คุณอาจจะต้องการให้โปรแกรม IDM ทำงานในส่วนนี้แทน ก็ให้คุณทำเครื่องหมายหน้าบรรทัด Detect new applications that try to download files from the internet

ในส่วนที่ 3
กำหนด ชนิดของไฟล์ที่จะให้โปรแกรม IDM ดาวน์โหลด ซึ่งค่าปกติที่โปรแกรม IDM เตรียมมาให้ก็มีอยู่พอสมควรแล้ว เช่น หากคุณต้องการให้โปรแกรม IDM ทำงาน เมื่อมีดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร (ที่มีนามสกุลเป็น .doc) คุณก็เพียงแค่เพิ่มคำว่า DOC ให้ต่อท้ายจากชนิดของไฟล์ตัวสุดท้ายโดยวรรคจากตัวก่อนหน้านั้น 1 วรรค (จากรูปชนิดของไฟล์ตัวสุดท้ายคือ PDF)

ในส่วนที่ 4
กำหนด รายชื่อเว็บที่คุณไม่ต้องการให้โปรแกรม IDM เป็นตัวดาวน์โหลด จากตัวอย่างในรูป เป็นเว็บอัพเดทระบบปฏิบัติการวินโดว์ (คุณสามารถใช้เครื่องหมาย * เพื่อกำหนดค่า URL เป็นช่วงกว้างๆ ได้)

2. การกำหนดค่าในแท็บ Connection
ในแท็บ Connection นี้ จะให้คุณกำหนดชนิดของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทที่คุณใช้งานอยู่ (Connection Type/Speed) เช่น Dial-up , ADSL ในแต่ละความเร็ว ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อให้โปรแกรม IDM สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

มี จุดกำหนดค่าที่สำคัญอยู่ 2 จุดที่ควรจะกล่าวถึง คือ Max. connections number ซึ่งเป็นการกำหนดคอนเน็คชั่นในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เรากำหนดจะ ดาวน์โหลดไฟล์ (เหมือนกับการช่วยกันดาวน์โหลดไฟล์ๆ เดียวจากหลายๆ เครื่อง) โดยยิ่งเรากำหนดจำนวนคอนเน็คชั่นมาก ก็จะทำให้เราดาวน์โหลดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

แต่ในอีกด้านหนึ่ง การเพิ่มจำนวนคอนเน็คชั่นในการดาวน์โหลดมากเกินไป ก็จะสร้างภาระให้กับเซิร์ฟเวอร์ที่เราทำการดาวน์โหลดไฟล์ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ดูแลระบบหาทางป้องกันหรือจำกัดการดาวน์โหลดในครั้งต่อๆ ไป ดังนั้นค่าปกติที่ควรจะกำหนดไว้สำหรับ Max. connections number นั้น ไม่ควรจะเกิน 4

แต่หากคุณต้องการเพิ่มหรือลดจำนวนคอนเน็คชั่น โดยขึ้นอยู่กับเซิรฟ์เวอร์หรือเว็บไซท์ว่ามีความสามารถในการรองรับการแชร์ ไฟล์หรือโปรแกรมได้มากน้อยเพียงใด คุณสามารถคลิกที่ปุ่ม New ภายใต้ส่วน Exceptions: ซึ่งจะทำให้คุณสามารถกำหนดค่า Max connections สำหรับแต่ละเว็บไซท์ที่คุณต้องการจะดาวน์โหลดไฟล์ได้

3. การกำหนดค่าในแท็บ Downloads
ในส่วนที่ 1

กำหนดโฟลเร์ที่จะเก็บไฟล์แต่ละประเภท โปรแกรม IDM จะแบ่งประเภทไฟล์ออกเป็น 6 หมวดหลักๆ คือ
ไฟล์ ทั่วไป (General) , ไฟล์ที่ถูกบีบอัด (Compressed) ไฟล์เอกสาร (Documents) ไฟล์เสียง (Music) ไฟล์โปรแกรม (Programs) ไฟล์วีดีโอ (Video) ซึ่งวิธีการกำหนดโฟลเร์ที่จะจัดเก็บสำหรับไฟล์แต่ละประเภท ให้คุณคลิกเลือกหมวดในบรรทัด Category ก่อน จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Browse เพื่อเลือกโฟลเร์ และปฏิบัติด้วยขั้นตอนเช่นนี้ซ้ำๆ กัน จนครบทุกประเภทของไฟล์

สำหรับในบรรทัด Remember last save path for “General” category จะเป็นการกำหนดให้โปรแกรม IDM จำค่าโฟลเร์ที่บันทึกไฟล์ที่ดาวน์โหลดสำหรับไฟล์ประเภททั่วไปครั้งสุดท้าย เอาไว้ เช่น หากคุณกำหนดโฟลเร์ที่จะเก็บไฟล์ทั่วไปไว้ในโฟลเร์ C:\GENERAL แต่ตอนที่คุณทำการดาวน์โหลดด้วยโปแกรม IDM คุณทำการเปลี่ยนโฟลเร์ที่จะจัดเก็บไฟล์ที่อยู่ในประเภททั่วไปนี้ ไปไว้ที่โฟลเร์อื่น เช่น C:\TEMP โปรแกรม IDM จะจำค่าโฟลเร์ที่เปลี่ยนไปนั้นไว้ด้วย ซึ่งเมื่อคุณดาวน์โหลดไฟล์ที่อยู่กลุ่มประเภททั่วไปนี้อีก โปรแกรม IDM ก็จะแสดงโฟลเร์ที่จะใช้จัดเก็บขึ้นมาให้เป็น C:\TEMP แทน C:\GENERAL ที่เคยกำหนดไว้

ในส่วนที่ 2

จะเป็นการกำหนดการแสดงผลหน้า จอการดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM เช่น ให้แสดงเป็นแบบ Normal หรือ Minimize นอกจากนั้นคุณยังสามารถกำหนดให้แสดงหรือไม่แสดงหน้าจอเริ่มต้นการดาวน์โหลด (Show start download dialog) และหน้าจอหลังการดาวน์โหลดเสร็จ (Show download complete dialog)

หน้าจอเริ่มต้นการดาวน์โหลด
หน้าจอหลังการดาวน์โหลดเสร็จ
ซึ่งหากคุณมักจะดาวน์โหลดไฟล์เป็นจำนวนมากพร้อมๆ กันหลายๆ ไฟล์ คุณอาจจะกำหนดไม่ให้แสดงหน้าจอหลังการดาวน์โหลดเสร็จขึ้นมา เพื่อไม่ให้เกะกะที่หน้าจอ หรือต้องคอยปิดหน้าจอเหล่านั้นทิ้งไป

ในส่วนที่ 3

คุณ สามารถเลือกโปรแกรมสแกนไวรัสที่จะใช้ตรวจสอบไฟล์ที่คุณดาวน์โหลดผ่านโปรแกรม IDM ได้จากการคลิกเลือกโปรแกรมในบรรทัด Virus scanner program จากนั้นใส่พารามิเตอร์ที่จะใช้ในการสแกนไฟล์ไว้ในบรรทัด Command line parameters

กำหนดรูปแบบการแสดงผลทั่วไปของโปรแกรม IDM

ให้คุณคลิกที่เมนู View คุณจะพบกับเมนูต่างๆ ที่ใช้ปรับรูปแบบการแสดงผลของโปรแกรม IDM ดังรูป
1. Hide categories -- ให้ซ่อนหรือแสดงหน้าต่างแยกประเภทไฟล์ที่ดาวน์โหลด ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือของหน้าจอหลักของโปรแกรม IDM นี้
2. Arrange files -- เลือกรูปแบบการจัดเรียงไฟล์ในลิสต์รายการดาวน์โหลดโปรแกรม เช่น เรียงตามชื่อ , เรียงตามลำดับการดาวน์โหลด ฯลฯ
3. Toolbar -- เลือก รูปแบบการแสดงทูลบาร์ (Toolbar) ที่เป็นปุ่ม Add URL, Resume, Stop, Stop All ว่าจะแสดงเป็นไอคอนขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ รวมทั้งให้แสดงผลแบบธรรมดาหรือสามมิติ (3D)
4. Customize URL List -- ปรับ แต่งการแสดงผลในหน้าต่างลิสต์รายการดาวน์โหลด เช่น จะให้ซ่อนหรือแสดง คอลัมน์ใด (File Name, Q, Size, Status) หรือจะจัดให้คอลัมน์ใยู่ด้านหน้าหรือด้านหลัง
5. Language -- เลือกภาษาที่จะใช้แสดงผลในโปรแกรม IDM (โปรแกรม IDM รองรับการแสดงผลภาษาไทย)

การอัพเดทโปรแกรม IDM แบบออนไลน์
คุณสามารถตรวจสอบและสั่งให้โปรแกรม IDM ทำการอัพเดทโปรแกรมให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ได้จากเมนู Help >> Quick Update จากหน้าจอหลักของโปรแกรม


ซึ่งเมื่อคลิกเข้าไปแล้ว คุณจะพบกับหน้าต่างที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรม IDM เวอร์ชั่นล่าสุดที่ทางเว็บผู้พัฒนาโปรแกรม IDM เปิดให้อัพเดท หากคุณต้องการอัพเดท ก็เพียงแค่คลิกที่ปุ่ม Update now

* ถ้าคุณไม่ได้ใช้โปรแกรมลิขสิทธิ์ อาจจะหลีกเลี่ยงการอัพเดทโปรแกรมโดยวิธีนี้ เพราะทางผู้พัฒนาโปรแกรมอาจจะมีการตรวจสอบลิขสิทธ์ของโปรแกรมที่คุณใช้ งานอยู่ ผ่านช่องทางการอัพเดทโปรแกรมนี้


วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วิธีการ download โปรแกรม Adobe Reader

วิธีการ download โปรแกรม Adobe Reader
ให้ทำการ download Adobe_Reader8.1 ทั้งหมดโดยการคลิกขวา แล้วเลือก Save Target As…

เลือกแหล่งเก็บข้อมูลแล้วเปลี่ยนชื่อ เป็น 1- 6 ตามลำดับ แล้วกด Save

เมื่อ download ครบแล้ว เปิดแหล่งเก็บข้อมูลที่ download มา แล้วคลิกขวาที่ ไฟล์ 1 เลือก Extract Here
จะได้ไฟล์ AdbeRdr810_en_US แล้วดับเบิ้ลคลิกเพื่อทำการติดตั้ง

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การติดตั้ง และใช้งาน โปรแกรม CuteFTP 8 Pro




การติดตั้ง และใช้งาน โปรแกรม CuteFTP 8 Pro

โปรแกรม : สำหรับอับโหลด ดาว์โหลดไฟล์ ระหว่างเครื่องเรากับเซิร์ฟเวอร์ เหมาะสำหรับใช้อับโหลดเว็บไซต์
ชนิดโปรแกรม : Software สามารถใช้งานได้ 30 วัน
Version : ที่ใช้เสนอคือ CuteFTP 8.1 Professional (21/02/51)
ขนาดไฟล์ติดตั้งโดยประมาณ : 8.36 MB
สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมล่าสุดได้จาก :
http://www.cuteftp.com/downloads/cuteftppro.aspx หรือ
http://www.download.com/Cute-FTP-Professional/3000-2160_4-10057159.html?tag=lst-0-1

โปรแกรม CuteFTP 8 Pro เป็นโปรแกรมนึงที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพื่อใช้ในการจัดการการอับโหลดไฟล์เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการลบ แก้ไข เปลี่ยนแปลง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โปรแกรมนี้เท่าที่ผมได้ใช้งานอยู่ยังพบปัญหาเกี่ยวกับระบบ Text Editor ของโปรแกรม ที่ใช้ในการแก้ไขไฟล์ ยังไม่สามารถปรับแสดงฟอนต์ไทยที่ถูกต้องได้ ทางผมเองได้ใช้อยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากชอบความสะดวก รวดเร็วในการจัดการ เดี่ยวลองมาดูวิธีติดตั้งและใช้งานกันครับ

การติดตั้งโปรแกรม CuteFTP 8 Professional (ผมขอเสนอแบบละเอียดเลยละกันครับเผื่อพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่เพิ่งหัดและไม่ทราบจริงๆ) หลังจากทำการ Download โปรแกรมล่าสุดแล้ว (สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้จาก)
http://www.cuteftp.com/downloads/cuteftppro.aspx หรือ
http://www.download.com/Cute-FTP-Professional/3000-2160_4-10057159.html?tag=lst-0-1

:::::::::: 1. วิธีการดาวน์โหลดโปรแกรม และติดตั้ง :::::::::::::

ทำการดาวน์โหลดไฟล์ได้จาก Donwload.com ดังลิงค์ด้านบน

ทำการกด Save เพื่อบันทึก
เลือกโฟรเดอร์ปลายทางที่ต้องการบันทึก
หลังจากที่ดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้ทำการดับเบิ้ลคลิกเปิดไฟล์เพื่อติดตั้ง ในขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนทำการติดตั้งได้ดังนี้

หลังจากดับเบิ้ลคลิกไฟล์แล้ว กดปุ๋ม Run

ทำการกด Next > Yes >


หากต้องการเปลี่ยนโฟลเดอร์ที่บันทึกกด Browse.. และทำการกด Next > เพื่อติดตั้ง
เลือก Typical เพื่อติดตั้งแบบปกติ กด Next >
ขั้นตอนการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ กด Finish หากประสงค์ให้สร้าง Shortcut บน Desktop ให้ติ๊กดังภาพ
:::::::::: 2. วิธีการใช้งานโปรแกรม CuteFTP 8 Professional :::::::::::::
เลือก Start > All Programs > GlobalSCAPE > CuteFTP Professional > CuteFTP 8 Professional

เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาจะพบ Popup ดังภาพ
โปรแกรมนี้ใช้งานได้ 30 วัน เป็นโปรแกรมคุณภาพที่น่าซื้อลิขสิทธิ์มาใช้งานทีเดียวครับ
หลังจากปุ๋ม Wait หายไปกด Continue หลังจากนั้นจะมี Popup ขึ้นมาอีกครั้ง ให้กด Cancel ครับ และกด Yes เพื่อออกจากส่วนดังกล่าว จะมี Popup Tip of the Day ให้ดำเนินการนำเครื่องหมายถูก(Show tips on startup) ออก และกด Close
คลิกขวาในส่วนกรอบทางซ้ายดังภาพ เลือก New > FTP Site. หรือกด Ctrl+N
กรอกข้อมูล ต่างๆ ที่ได้รับจากระบบ และตั้งค่าดังภาพ และ กด Connect
อ้างอิงข้อมูลตามตัวเลขดังภาพ
1. ฝั่ง Local หรือ Directory บนเครื่องของเรา
2. Directory ฝั่ง Server
3. แสดงการดำเนินการ Command โดยโปรแกรม
4. แสดงสถานะการดำเนินการอับโหลด ดาวน์โหลดโฟลเดอร์หลักสำหรับการ Upload File บน Server คือ Public_html

โฟลเดอร์หลักสำหรับการ Upload File บน Server คือ Public_html
ให้เข้าไปย้งโฟลเดอร์ Public_html และทำการอ้บโหลดไฟล์ หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ
โดยจับลากไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการลากไปใส่ทางฝั่งขวา หรือดาวน์โหลด จับลากจากฝั่งขวามาซ้ายดังภาพ

:::::::::: 3. วิธีการ Move Edit Rename Delete ตั้งค่า Permission หรือ Chmod ไฟล์และโฟลเดอร์ :::::::::::::

ทำการคลิกขวาที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ ทำการเลือก ตามความต้องการดังภาพ
การตั้ง Permission หรือ Chmod เลือก Properties/CHMOD
ทำการตั้งค่าตามต้องการ
*** ผู้ใช้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับค่า Permission เหล่านี้อย่างเข้าใจ เพราะสามารถปรับตั้งค่าได้ตามความเหมาะสมปลอดภัยต่อเว็บไซต์และระบบ
*** ไม่ควรทำการตั้งค่า 777 ทั้งหมด เพราะอาจทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีทำการแก้ไขเว็บไซต์ (Hack) ได้
*** สามารถตั้งค่าเป็น 777 เพื่ออนุญาติให้ เขียน อ่าน และจัดการได้

:::::::::: 4. การปรับแต่งโปรแกรม :::::::::::::


หลังจากทำการอับโหลดแล้วจะพบว่า สถานะที่ดำเนินการเสร็จจะไม่หายไป เราสามารถตั้งค่าให้โปรแกรมลบอัตโนมัติได้ โดยเลือกเมนู Tools > Global Options > Transfer > Eevn > ติ๊ก Remove Succ.. ดังภาพ > กด ok